บทเรียนสำคัญและกำแพงที่เชลซีต้องก้าวผ่านไปให้ได้

หลังจบเกมที่แสตมฟอร์ด บริดจ์ สถานการณ์ในการลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ ยิ่งเข้มข้นกว่าเดิมหลังจาก แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ เชลซี 2-0 ทำให้อันดับ 4 และ 10 มีช่องว่างห่างกันเพียง 7 คะแนนเท่านั้น และหลังจากนี้ หากลูกทีมของแลมพาร์ด ยังคงหาจุดพลิกผันของตัวเองไม่เจอ พวกเขาก็มีสิทธิ์ร่วงยาว ๆ ได้เช่นกัน กับโปรแกรมสุดหินที่เหลืออยู่

สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมที่ ‘เดอะ บริดจ์’ หลายสิ่งเป็นอะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ไม่ว่าเป็นจะเป็นจังหวะของเกม, คู่แข่ง, ผู้ตัดสินรวมถึง VAR ที่ยังคงเป็นที่ครหาในพรีเมียร์ลีก แต่เรื่องของเรื่องก็คือ มีหลายสิ่งที่ เชลซี สามารถทำและควบคุมได้ และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ที่ทำให้พวกเขาไม่มีนักเตะหน้าใหม่สักรายในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา มันอาจจะส่งผลร้ายกว่าเกินกว่าที่จะคิดก็เป็นได้

ภายหลังที่ศาลกีฬาโลก ได้ตัดสินว่าผลอุทธรณ์ของ เชลซี ‘ผ่าน’ ทำให้พวกเขาสามารถลืมตาอ้าปากในตลาดนักเตะได้อีกครั้งและเป็นข่าวกับผู้เล่นชื่อดังมากมาย แต่สุดท้าย ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็แน่นิ่งไม่ไหวติง ทุกคนต่างรู้กันว่าการเสริมทีมในตลาดหน้าหนาวไม่ใช่งานกล้วย ๆ โดยเฉพาะนักเตะที่เป็นสตาร์ดัง หรือเป็นตัวหลักของทีมที่ถ้าเงินไม่ถึงจริง ๆ และนักเตะไม่อยากมาใจจะขาด ก็คงหมดสิทธิ์ที่จะได้ตัว ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่สุดท้าย พวกเขาเลือกที่จะไม่ทำอะไรกับมันเลย และปล่อยโอกาสทองนี้ให้หลุดลอยไป สิ่งที่บอร์ดบริหารเชลซีเลือกที่จะทำก็คือ รอตลาดปิดแล้วจึงประกาศเซ็น ‘ฮาคิม ซิเย็ค’ มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโรซึ่งแม้ว่าเพลย์เมคเกอร์ทีมชาติโมร็อกโกของ อาแจ็กซ์ จะเป็นนักเตะที่เก่งกาจเพียงใด แต่หากไม่สามารถช่วยทีมในช่วงเวลาย่ำแย่ที่เหลืออยู่นี้ได้ มันจะมีประโยชน์อะไร หากทีมไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลยุโรปในปีหน้า

เมื่อกวาดตามองไปที่ม้านั่งสำรอง ก็ดูจะยิ่งหมดหวัง เพราะแทบไม่เห็นนักเตะ ‘คีย์เพลย์เยอร์’ ที่สามารถเปลี่ยนเกมได้เลยเกมรับที่นัดแรกของฤดูกาลห่วยยังไง Ufabet1688 วันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง รวมถึงเกมรุกที่ยังต้องมาเสียนักเตะคนสำคัญในทีมไปหลายคนจากอาการบาดเจ็บอีก แม้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จะลงมาสร้างความหวังเล็ก ๆ ให้กับทีม แต่กับบทบาทตัวหลักแล้วแน่นอนว่าเขาคงไม่ใช่คำตอบที่แฟนบอลถวิลหา บัตซูอายี่ยิ่งแล้วใหญ่ กลายเป็นตัวตลกในสายตาแฟนบอล และหากกางตารางแข่งสองนัดถัดไปแล้ว แฟนเชลซีคงทำได้เพียงแค่ภาวนาให้ แทมมี่ อับราฮัม หายเจ็บกลับมาลงสนามได้ในเร็ววันที่สุด

เริ่มจากเกมลีก ที่ต้องเปิดบ้านฟัด สเปอร์ส ที่ไล่จี้มาเหลือแต้มเดียว ต่อด้วยวันอังคารที่ต้องรับมือกับ บาเยิร์น มิวนิคในฟุตบอลยุโรป และพายุระลอกใหม่นี้ กำลังถาโถมเข้าซัดสแตมฟอร์ด บริดจ์อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีช่องทางช่วยเหลือจากโลกภายนอกแล้วที่ถูกปิดไปแล้วเมื่อเดือนมกราคม ที่ต้องจำไว้เป็นบทเรียน และฝ่าฟันมันไปพร้อมกันให้จงได้